• จันทร์. ก.พ. 10th, 2025

อินฟอร์มาฯ สานต่อความร่วมมือ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จัดงาน “Electric Vehicle Asia 2024” ยกระดับการผลิตไทยสู่การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก

มี.ค. 7, 2024
0 0
Read Time:5 Minute, 31 Second

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย พร้อมด้วยสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) สานต่อความร่วมมือจัดงาน “Electric Vehicle Asia (EVA) และ iEVTech 2024” งานแสดงเทคโนโลยีด้านยานยนต์ไฟฟ้างานแรกที่จัดมาอย่างยาวนานที่สุดในไทย รวบรวมเทคโนโลยีและการประชุมเฉพาะทางด้านยานยนต์ไฟฟ้าระดับนานาชาติไว้อย่างครบวงจร เป็นงานที่ได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง วางเป้าเสริมแกร่งผู้ประกอบการใน ตลาด EV และภาคการผลิตเพื่อขานรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยในระดับภูมิภาค ปักธงเตรียมจัดงานใหญ่ ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีหมุดหมายในการสร้างเครือข่าย ต่อยอดธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และเตรียมความพร้อมไทยสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) อย่างยั่งยืนในอนาคต

นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจาก EV-Volumes.com ระบุว่า ยอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ทั้งแบบใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (BEV) และแบบปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEV) ในปี 2023 มีปริมาณ 14.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2022 และในปี 2024 คาดการณ์ว่าจะมียอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 ประเภท รวมกันราว 17.8 ล้านคัน ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าสะสมทั่วโลกอยู่ที่ราว 40 ล้านคัน โดยเฉพาะประเทศไทยในปี 2023 กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จดทะเบียนใหม่มีอัตราการเติบโตในภาพรวมจากปีก่อนราว 690% หรือราว 76,366 คัน ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามียอดการเติบโตที่ 121% หรือราว 21,927 คัน ซึ่งปัจจัยบวกสำคัญมาจากนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า อย่าง มาตรการ EV 3.0 และ 3.5 ที่ให้เงินอุดหนุน ลดภาษีนำเข้า และลดภาษีสรรพสามิตสำหรับค่ายรถยนต์ที่ลงนามในข้อตกลง MoU กับกรมสรรพสามิต เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศตามมาตรการสนับสนุน ยกระดับให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค โดยมาตรการ EV 3.5 มีผลบังคับใช้ในปี 2024-2027 เพื่อสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ที่กำหนดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV ภายในประเทศ ในปี 2026 ที่อัตราส่วนการผลิต 2 คัน ต่อการนำเข้า 1 คัน และในปี 2027 กำหนดการผลิตภายในประเทศ 3 คันต่อการนำเข้า 1 คัน นอกจากนี้แล้วยังมีแนวโน้มการลงทุนเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่น่าสนใจ อาทิ ยานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Driving) ข้อมูลสำหรับเชื่อมต่อยานยนต์กับการสื่อสาร (Data-Driven & Connected Service) และ การแบ่งปันการใช้งาน (Shared Service) จะเข้ามาช่วยในการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของยานยนต์สมัยใหม่

“โดยที่ผ่านมาสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยได้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนองค์ความรู้ในด้านต่างๆเกี่ยวข้อง ทั้งระบบขับเคลื่อน แบตเตอรี่ ระบบการชาร์จ รวมถึงเทคโนโลยี simulation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต เราทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยหนึ่งเวทีที่สำคัญ คือ การจัดการประชุมนานาชาติ iEVTech 2024 ร่วมกับทางอินฟอร์มาฯ ในงาน Electric Vehicle Asia ต่อเนื่องทุกปี โดยในปีนี้จัดขึ้นในหัวข้อ “Global EV Industry Transformation Towards  Decarbonization ” เป็นเวทีที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก นักวิจัย นักพัฒนา ผู้กำหนดนโยบาย และซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้ามาร่วมแลกเปลี่ยน องค์ความรู้ใหม่ๆร่วมกัน ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม EV อย่างครบวงจรและเป็นก้าวที่สำคัญในการยกระดับการขนส่งพลังงานสะอาดของไทยสู่การเป็นผู้นำในอาเซียนต่อไป” นายกฤษฎา กล่าวเสริม

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ – ประเทศไทย กล่าวว่า อินฟอร์มาฯ เล็งเห็นโอกาสและมองเห็นทิศทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานมาอย่างต่อเนื่องและได้เริ่มจัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเป็นรายแรกในไทยผ่านการจัดงาน “Electric Vehicle Asia” โดยจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ซึ่งในระยะแรกมีเป้าหมายที่สำคัญในการชี้เทรนด์รวมถึงสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับยานยนต์ดังกล่าว ปัจจุบันงานนี้กลายเป็นเวทีที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค โดยได้ขนทัพเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยด้านยานยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงจากกว่า 25 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์ แบตเตอรี่ สถานีชาร์จ ชิ้นส่วน รวมถึงยานยนต์ต้นแบบ อาทิ  ABB, Bossard, Delta, Grob, Trumpf, Carl Zeiss, Wima เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังมีพาวิเลียนนานาชาติกว่า 7 ประเทศ ทั้ง เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี จีน สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ และไต้หวัน ทั้งนี้ยังได้รวบรวมผู้นำและผู้เชี่ยวชาญจากเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากทั่วทุกมุมโลกครอบคลุมในมิติของระบบนิเวศทางธุรกิจของยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV Eco System ตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำในทุกห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะในภาคการผลิตมีความพร้อมในทุกด้านสู่การเป็นฐานการผลิตและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมในอนาคตของภูมิภาค

ปีนี้งาน EVA 2024 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “EV Ecosystem Transformation Towards Net Zero” หรือ การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าสู่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยปัจจุบันทุกภาคส่วนมีการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และหนึ่งปัจจัยในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งระบบนิเวศน์ต้องมีการปรับตัวรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ อีกทั้งในฐานะผู้จัดงานเราให้ความสำคัญในการสร้างเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ เรามีการเชิญ Delegation จากหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมทั้งประชาสัมพันธ์งานสู่ผู้ซื้อคุณภาพทั่วโลก ผ่านเครือข่ายและฐานข้อมูลในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอกย้ำความพร้อมการเป็นศูนย์กลางในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในทุกห่วงโซ่อุปทานด้าน EV เรายังมีไฮไลต์สำคัญ คือ การประชุมนานาชาติด้านยานยนต์ไฟฟ้า iEVTech ที่รวบรวมหัวข้อเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าต่างๆอย่างครอบคลุม เราเชื่อมั่นว่า งานนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของทั้งผู้ผลิต ผู้ขาย รวมทั้งผู้ซื้อ ในการขับเคลื่อนศักยภาพของไทยในฐานะผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค นายสรรชาย กล่าวเสริม

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยสู่ระดับโลกที่งาน “Electric Vehicle Asia” และ “iEVTech 2024” โดยจัดขึ้นพร้อมกับงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2024 (ASEW) งานแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และระบบกักเก็บพลังงานที่ครบครันที่สุดในภูมิภาค ซึ่งทั้ง 2 งานนี้จะเสริมสร้างอนาคตความมั่นคงด้านพลังงานและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มุ่งสู่สังคมคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) อย่างยั่งยืน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ติดตามข่าวสารที่ www.evasia-expo.com 

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Related Post

●    Predator Helios 16 AI และ 18 AI มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 9 275HX, การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX™ 50 Series, จอ OLED และ Mini LED, ระบบระบายความร้อน 6th Gen AeroBlade™ 3D และ MagKey 4.0 ●    Predator Helios Neo 16S AI รุ่นใหม่ส่งมอบประสิทธิภาพสูงสุดด้วยชิปประมวลผลล้ำสมัยเข้ากับจอแสดงผล OLED อัตรารีเฟรชเรท 240 Hz ในดีไซน์ใหม่ที่บางเพียง 19.9 มิลลิเมตร ●    Predator XB323QX เกมมิ่งมอนิเตอร์ที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 31.5” ความละเอียด 5K เสริมด้วยเทคโนโลยี NVIDIA G-SYNC Pulsar และอัตรารีเฟรชเรท 144 Hz ลาสเวกัส (20 มกราคม 2568) เอเซอร์เปิดตัวเกมมิ่งโน้ตบุ๊กสายพันธ์แกร่ง Predator Helios 16 AI และ Predator Helios 18 AI พร้อมขยายพอร์ต Helios Neo ด้วย Predator Helios Neo 16S AI ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์บางเบาแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลัง Predator Helios 16 AI, Predator Helios 18 AI และ Predator Helios Neo 16S AI มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 9 275HX และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX™ 50 Series Laptop GPUs มอบประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเล่นเกมและการใช้งาน AI. การ์ดจอ GeForce RTX™ 50 Series สถาปัตยกรรม NVIDIA Blackwell ยกระดับประสบการณ์และความสมจริงของกราฟิก เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย NVIDIA DLSS 4 ที่ช่วยสร้างภาพด้วยความเร็ว และปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ด้วย NVIDIA Studio นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง NVIDIA NIM Microservices โมเดล AI ที่ล้ำสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานและนักพัฒนาสามารถสร้าง AI assistants, agents และ workflows ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดบนระบบที่พร้อมใช้งาน NIM Helios มาพร้อมพัดลมระบายความร้อนที่มีใบพัดแบบบางเป็นพิเศษ 6th Gen AeroBlade™ 3D และสวิตช์กลไก MagKey 4.0 ทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบใหม่และเพิ่มหน้าจอ OLED และ Mini LED. โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง Predator ที่ใช้ Windows 11 มาพร้อมกับ PC Game Pass สามเดือน รวมถึงเกมใหม่ล่าสุด เช่น Call of Duty: Black Ops 6, Indiana Jones and the Great Circle, Ara: History Untold และเกมจาก EA Play ในงานนี้ เอเซอร์ ยังได้เปิดตัวเกมมิ่งมอนิเตอร์รุ่นใหม่ Predator XB323QX มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 31.5” ความละเอียด 5K และเทคโนโลยี NVIDIA G-SYNC® Pulsar มอบความคมชัดและความสมจริงของภาพที่น่าทึ่ง “เรามุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถของการเล่นเกมให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้นใน Predator รุ่นล่าสุด ด้วยการสร้างนวัตกรรมในวงการเกมเห็นได้ชัดจากเทคโนโลยีชิปรุ่นล่าสุด ใบพัดระบายความร้อนที่บางที่สุดในโลก และดีไซน์ที่บางเบาแต่ยังเปี่ยมไปด้วยพลังของโน้ตบุ๊ก Helios Neo นับเป็นความก้าวหน้าที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นที่เหล่าเกมเมอร์ต้องการ” นายเจมส์ ลิน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก Acer Inc. กล่าว “โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200HX-series ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพและการรับส่งข้อมูลสูงสุดที่เกมเมอร์ต้องการ ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง ด้วยการผสานเทคโนโลยี Intel Core Ultra เข้ากับนวัตกรรมการออกแบบของ Acer ทำให้เกิด Predator รุ่นใหม่ที่ยกระดับมาตรฐานของเกมมิ่งโน้ตบุ๊กให้สูงยิ่งขึ้น” นายเดวิด เฟิง รองประธานกลุ่ม Client Computing Group, Intel กล่าว Predator Helios 16 AI และ Predator Helios 18 AI Helios 16 AI และ Helios 18 AI เกมมิ่งโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์เกมเมอร์และผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ด้วยโปรเซสเซอร์และกราฟิกการ์ดรุ่นล่าสุด เทคโนโลยีระบายความร้อน และจอแสดงผลคุณภาพสูง. Predator Helios 16 AI (PH16-73) โน้ตบุ๊กที่ลงตัวด้วยประสิทธิภาพและสะดวกในการพกพา เหมาะสำหรับเกมเมอร์มืออาชีพที่ต้องการสมรรถนะยอดเยี่ยมและพกพาสะดวกไปได้ทุกสนามแข่งขัน Lan Sessions.  Predator Helios 18 AI มอบประสิทธิภาพระดับเดสก์ท็อปด้วยจอแสดงผลขนาดใหญ่ ให้ประสบการณ์การเล่นเกมคุณภาพสูง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ตัวจริงและผู้ที่สนใจเทคโนโลยีล้ำสมัย Predator Helios ทั้งสองรุ่นมาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 9 275HX ที่มี NPU เร่งประสิทธิภาพ AI และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5090 Laptop พร้อมเทคโนโลยี NVIDIA DLSS มอบประสิทธิภาพความเร็วเพื่อประสบการณ์การเล่นเกม พร้อมด้วยกราฟิกและ AI ระดับพรีเมียม. NVIDIA GeForce RTX 5090 ยังเสริมประสิทธิภาพการใช้งานให้กับโน้ตบุ๊กด้วยแอป AI มากกว่า 150 แอป บน PC ที่ใช้ GPU ของ NVIDIA และ RTX Tensor Cores เพื่อเร่งความเร็ว AI รวมถึงแอปสร้างเนื้อหาด้วย AI ชั้นนำสำหรับ LLM การสร้างภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย พื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับเกม รูปภาพ และคลังภาพยนตร์ Helios 16 AI มีหน่วยความจำสูงสุด 64 GB รองรับ PCIe Gen 5 สูงถึง 4TB ส่วน Helios 18 AI รองรับหน่วยความจำสูงสุด 192 GB และ PCIe Gen 5 สูงถึง 6TB.Predator Helios ได้ยกระดับเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยพัดลม 6th Gen AeroBlade 3D ที่บางที่สุดในโลกเพียง 0.05 มม. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้ 20% เมื่อเทียบกับพัดลมพลาสติก ใช้ซิลิโคนระบายความร้อนโลหะเหลวและท่อระบายความร้อนแบบเวกเตอร์เพื่อลดอุณหภูมิ Helios มาพร้อมจอแสดงผลทันสมัยให้ภาพสว่าง สวยงาม คมชัด Helios 16 AI จอ OLED WQXGA (2560×1600) อัตรารีเฟรช 240 Hz และ Helios 18 AI จอ Mini LED WQXGA 4K อัตรารีเฟรช 120 Hz ความสว่างสูงสุด 1000 nits ทั้งสองรุ่นมีฟีเจอร์จอแสดงผล dual-mode สลับไปใช้ความละเอียด FHD ที่ 240 Hz ผ่านแอป PredatorSense รองรับเทคโนโลยี NVIDIA G-SYNC, NVIDIA Advanced Optimus และ MUX Switch คีย์บอร์ด RGB แบบต่อปุ่มมาพร้อมสวิตช์ MagKey 4.0 สำหรับคีย์ WASD และคีย์ลูกศร ระยะการกด 0.3 มม. ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำ ตัวเครื่องโดดเด่นด้วยไฟ RGB บนฝาบน กรอบด้านหลัง ขอบด้านซ้าย และที่วางมือด้านขวา เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม และยังมีแอป PredatorSense รุ่นล่าสุด ช่วยควบคุมประสิทธิภาพ พัดลม และไฟ นอกจากนี้ Experience Zone ยังช่วยจัดการประสิทธิภาพด้วย AI เช่น Acer PurifiedView™ 2.0, Acer PurifiedVoice™ 2.0 และ Acer ProCam™ ที่จดจำและบันทึกไฮไลท์การเล่นเกมโดยอัตโนมัติ ทั้งสองรุ่นมาพร้อม DTS:X Ultra เพื่อเสียงคุณภาพสูง Helios 16 AI มีลำโพง 4 ตัว ส่วน Helios 18 AI มีลำโพง 6 ตัว รองรับการเชื่อมต่อด้วย Ethernet E5000B รุ่นล่าสุด Intel Killer Wi-Fi 7 และพอร์ต Thunderbolt 5 สองพอร์ต Predator Helios Neo 16S AI Predator Helios Neo 16S AI (PHN16S-71) ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยมในรูปทรงเพรียวบาง ด้วยความหนาเพียง 19.9 มิลลิเมตร ออกแบบเพื่อความคล่องตัวสำหรับการเล่นเกมและการสร้างสรรค์ผลงาน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 9 processor 275HX ที่มี NPU ในตัว รองรับ AI และการเล่นเกม กราฟิก NVIDIA GeForce RTX 5070 Ti และเทคโนโลยี NVIDIA DLSS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการตอบสนองที่ดีขึ้น รองรับหน่วยความจำสูงสุด 32 GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 2 TB จอแสดงผล OLED WQXGA อัตรารีเฟรชสูงถึง 240 Hz ครอบคลุมพื้นที่สี DCI-P3 100% มอบภาพที่คมชัดและสีสันสดใส รองรับเทคโนโลยี NVIDIA G-SYNC และ NVIDIA Advanced Optimus พร้อม MUX Switch เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด ระบบระบายความร้อนขั้นสูงด้วยเทคโนโลยี 5th Gen AeroBlade ของเอเซอร์ ซิลิโคนระบายความร้อนโลหะเหลวช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในช่วงการเล่นเกมที่เข้มข้นที่สุด PredatorSense ช่วยควบคุมการปรับระบบแบบเรียลไทม์ ให้คุณสามารถปรับแต่งการทำงานของเครื่องได้ตามต้องการ และ Experience Zone ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้คุณสมบัติที่ล้ำสมัย เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น Predator XB323QX เกมมิ่งมอนิเตอร์ประสิทธิภาพสูง ระดับ 5K Predator XB323QX เกมมิ่งมอนิเตอร์จอแสดงผล IPS 31.5” ความละเอียด 5K อัตรารีเฟรช 144 Hz เวลาตอบสนอง 0.5 มิลลิวินาที สลับไปใช้ WQHD (2560×1440) ที่ 288 Hz ด้วย DFR รองรับ NVIDIA G-SYNC Pulsar ให้ภาพคมชัด คุณภาพสี true 10-bit รองรับช่วงสี 95% DCI-P3 หรือ 99% sRGB. Widget จอภาพเอเซอร์ ช่วยปรับตั้งค่าได้ง่าย รองรับ DisplayPort 1.4 และ HDMI 2.1 พร้อมลำโพง 2 วัตต์ ในตัว หน้าจอสามารถปรับเอียง หมุน และปรับระดับความสูงได้ และยังสามารถติดตั้งกับผนังได้เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ ราคาและการวางจำหน่าย Predator Helios 16 AI (PH16-73) เริ่มวางจำหน่ายในอเมริการเหนือ, ตะวันออกกลางและแอฟริกา(EMEA) และออสเตรเลีย ในเดือนมิถุนายน ในราคาเริ่มต้นที่ 2,299 USD., 2,799 EUR และ 5,499 AUD ตามลำดับ Predator Helios 18 AI (PH18-73) เริ่มวางจำหน่ายในอเมริการเหนือในเดือนพฤษภาคม ราคาเริ่มต้นที่ 2,999.99 USD., ตะวันออกกลางและแอฟริกา(EMEA)และออสเตรเลีย วางจำหน่ายในเดือนเมษายน ราคาเริ่มต้นที่ 3,699 EUR และ 7,599 AUD ตามลำดับ Predator Helios Neo 16S AI (PHN16S-71) เริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือและออสเตรเลียในเดือนเมษายน ราคาเริ่มต้นที่ 1,699.99 USD. และ 4,999 AUD. ตามลำดับ สำหรับตะวันออกกลางและแอฟริกา(EMEA) วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ราคาเริ่มต้นที่ 2,399 EUR. ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ราคา และความพร้อมในการจัดจำหน่ายที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดจำหน่าย ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ และราคาในตลาด โปรดติดต่อสำนักงาน Acer ใกล้คุณผ่านทาง www.acer.com เยี่ยมชม Acer’s Media Center เพื่อดูภาพผลิตภัณฑ์และรายละเอียดสเปค หรือที่ Press Room สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด เกี่ยวกับเอเซอร์ เอเซอร์ ก่อตั้งในปี 1976 เป็นหนึ่งในบริษัท ICT ชั้นนำของโลก ดำเนินงานในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก เอเซอร์มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง โดยมุ่งเน้นให้เกิดการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแบร์ ซอฟต์แวร์ และบริการ สร้างระบบนิเวศและเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคและธุรกิจ พนักงานของเอเซอร์กว่า 7,700 คน ทุ่มเทให้กับการวิจัย ออกแบบ การตลาด การขาย รวมถึงสนับสนุนผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่สามารถยกระดับผู้คนและเทคโนโลยี ติดตามข้อมูลได้ที่ www.acer.com
ม.มหานคร ร่วมกับ คคพ.เขตหนองจอก ปลูกฝังองค์ความรู้การจัดการขยะสร้างเตาเผาขยะชีวมวลให้โรงเรียน 37 แห่ง ร่วมพลังลดมลพิษ สู่ชุมชนสีเขียว
เฟ้นหาสุดยอดนักพัฒนาหุ่นยนต์ใน VEX Robotics Thailand 2024-2025

You missed

Translate »